๖๔. ต้นกล้วย ขอนสัก และลำไม้ไผ่
ในแม่น้ำแห่งหนึ่ง น้ำไหลเชี่ยวมากและแล้วน้ำอันไหลเชี่ยวนั้นได้พัดพาเอาต้นกล้วย ขอนไม้สัก และลำไม้ไผ่มาพบกัน แล้วจึงไหลลอยตามน้ำไปด้วยกัน
ต้นกล้วยลอยไปลำไม้ไผ่จึงร้องถามว่า
"ท่านมาแต่ไหน?"
ต้นไผ่ตอบว่า
"เรามาแต่ป่าไผ่ ถูกเขาตัดเอามาใช้ทำแพ"
แล้วต้นไผ่ก็ถามกล้วยว่า
"ท่านมาแต่ไหนเล่า?"
ต้นกล้วยตอบว่า
"เรามาแต่ป่ากล้วย เราถูกตัดลำต้นของเราทิ้งลอยน้ำมา"
แล้วลำไผ่ก็ลอยไปปะทะกับเจ้าขอนสัก จึงร้องทักว่า
"ท่านมาแต่ไหน ลำต้นออกใหญ่โต"
"เรามาแต่ป่าใหญ่ คนเขาตัดเรามาเลื่อยไปใช้ทำเสา ทำกระดาน"
ขณะนั้นพระแม่คงคานิ่งฟังต้นไม้ทั้งสามสนทนากันก็อุทานออกมาว่า
"ต้นกล้วยถูกฆ่าเพราะว่าผลของมันเอง ต้นไผ่ถูกฆ่าเพราะว่าต้นของมันเอง ต้นสักถูกฆ่าก็เพราะคุณค่าของเนื้อไม้สักเอง"
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ต้นไม้ในป่าจะอาสัญเพราะลูกผลของมันและลำต้นของมันเอง เหมือนคนจะอาสัญก็เพราะความดีและความชั่วของตัว พอๆกัน บางทีก็อาสัญเพราะลูกของตัวเอง
๖๕. นกเอี้ยงเลี้ยงควายเฒ่า
นกเอี้ยงตัวหนึ่งขนสีดำปากเหลือง หวีผลแปล้บินมาเกาะหลังควายแก่ตัวหนึ่ง ควายแก่เที่ยวเดินและเล็มหญ้าอยู่ตามทุ่งนา นกเอี้ยงก็เกาะหลังควายตัวนั้นไปเรื่อยๆ เด็กเลี้ยงความสองสามคนเห็นนกเอี้ยงเกาะหลังควายก็เข้าใจว่านกเอี้ยงมาเลี้ยงดูควาย ควายได้กินหญ้ากินข้าวอิ่ม แต่นกเอี้ยงอดอาหารจนหัวโต จึงร้องเพลงว่า
"นกเอี้ยงมาเลี้ยงความเฒ๋า ควายกินข้าว นกเอี้ยงหัวโต"
นกเอี้ยงเอียงคอฟังเพลงของเด็กเลี้ยงควายแล้วก็หัวเราะพูดขึ้นว่า
"เด็กเลี้ยงความเสียเปล่าไม่เข้าใจอะไรเลย เราจับอยู่บนหลังควายเป็นที่หาอาหาร เวลามีเหลือบมาเกาะกินหลังควาย เราก็ได้จิกกินตัวเหลือบ ควายก็พอใจ ไม่ถูกเหลือบกินเลือด แมลงวัน ยุง เหลือบบนหลังควายเป็นอาหารของเราได้กินทุกวัน"
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่านึกว่าคนตัวโตๆ หัวโตๆ จะฉลาดกว่าสัตว์เช่นนกเอื้ยงตัวน้อยๆ ที่จริงมันฉลาดและขยันหากินยิ่งกว่าคนเสียอีก
๖๖. แมลงวันหัวเขียว
แมลงวันหัวเขียวตัวหนึ่ง ตัวมันโต หัวของมันมีสีเขียวสดใสสวยงาม มันเที่ยวบินหากินตัวเดียวโดยอิสระเสรี เมื่อมันได้กลิ่นขนมมันก็บินมาเกาะ ใช้จงอยปากดูดกินอย่างเอร็ดอร่อย เมื่อมันพบสัตว์ตายเน่าอยู่ หรือมูลสัตว์กองอยู่ มันก็บินเกาะใช้จงอยปากดูดกินอย่างเอร็ดอร่อยเหมือนกัน
วันหนึ่งมันบินไปพบเหลือบตัวหนึ่งกำลังเกาะหลังวัวตัวหนึ่งเพื่อจะดูดกินเลือดของวัว ส่วนแมลงวันหัวเขียวก็บินไปเกาะหลังวัวเพื่อจะดูดกินน้ำหนองจากแผลเป็นหลังวัวนั้นเหมือนกัน
เมื่อแมลงวันหัวเขียวเห็นเจ้าเหลือบบินมาเกาะหลัง เหลือบจึงร้องถามว่า " เจ้ามากินอะไรบนหลังวัว"
เหลือบหันมามองแมลงวันหัวเขียว เพ่งมองอยู่ที่หัวเขียวของมันสักครู่แล้วตอบว่า "เรามาหากินเลือดของวัวน่ะซิ อาหารของเราคือเลือดสีแดงๆ ของสัตว์ ท่านเล่ากินเลือดเหมือนกันหรือ?"
"เปล่าหรอก อาหารของเราไม่ใช่เลือดสัตว์ แต่เป็นอาหารใหม่และอาหารเก่าสองอย่างเท่านี้"
"อาหารใหม่ของท่านคืออะไร ?"
"อาหารใหม่คือขนมและน้ำตาลเป็นอาหารสดๆ ใหม่ ๆ ดื่มแล้วชื่นใจมีกำลังวังชาดีนัก"
"อาหารเก่าเล่ามีอยู่ที่ไหน ?"
"อาหารเก่าได้แก่มูลสัตว์ที่ถ่ายกองไว้ มันย่อมมีโอชะดื่มกินแก้หิวกระหายได้ อีกอย่างคือน้ำหนองจากแผลของสัตว์ เช่นแผลบนหลังวัวนี่ไงล่ะ ดื่มกินแล้วก็มีโอชะของอาหารบำรุงร่างกายเหมือนกัน เพราะมันย่อมประกอบด้วยดินและน้ำเหมือนกัน มันมีน้ำมันและน้ำตาลเหมือนกัน แม้เลือดที่ออกจากร่างกายสัตว์ก็เหมือนกัน แต่เราไม่พอใจที่จะดื่มเลือดสดๆ จากร่างกายของสัตว์ เพราะปากเราไม่มีเหล็กแหลมแทงเนื้อสัตว์ เราชอบดื่มจากแผลที่เจ้าของเปิดไว้ไม่หวงแหน"
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า แม้แมลงวันหัวเขียวที่คนเราว่าเป็นสัตว์สกปรก แต่แท้ที่จริงมันเป็นสัตว์สะอาดและฉลาด มีเหตุผลของมันเองเหมือนกัน
วันหนึ่งมันบินไปพบเหลือบตัวหนึ่งกำลังเกาะหลังวัวตัวหนึ่งเพื่อจะดูดกินเลือดของวัว ส่วนแมลงวันหัวเขียวก็บินไปเกาะหลังวัวเพื่อจะดูดกินน้ำหนองจากแผลเป็นหลังวัวนั้นเหมือนกัน
เมื่อแมลงวันหัวเขียวเห็นเจ้าเหลือบบินมาเกาะหลัง เหลือบจึงร้องถามว่า " เจ้ามากินอะไรบนหลังวัว"
เหลือบหันมามองแมลงวันหัวเขียว เพ่งมองอยู่ที่หัวเขียวของมันสักครู่แล้วตอบว่า "เรามาหากินเลือดของวัวน่ะซิ อาหารของเราคือเลือดสีแดงๆ ของสัตว์ ท่านเล่ากินเลือดเหมือนกันหรือ?"
"เปล่าหรอก อาหารของเราไม่ใช่เลือดสัตว์ แต่เป็นอาหารใหม่และอาหารเก่าสองอย่างเท่านี้"
"อาหารใหม่ของท่านคืออะไร ?"
"อาหารใหม่คือขนมและน้ำตาลเป็นอาหารสดๆ ใหม่ ๆ ดื่มแล้วชื่นใจมีกำลังวังชาดีนัก"
"อาหารเก่าเล่ามีอยู่ที่ไหน ?"
"อาหารเก่าได้แก่มูลสัตว์ที่ถ่ายกองไว้ มันย่อมมีโอชะดื่มกินแก้หิวกระหายได้ อีกอย่างคือน้ำหนองจากแผลของสัตว์ เช่นแผลบนหลังวัวนี่ไงล่ะ ดื่มกินแล้วก็มีโอชะของอาหารบำรุงร่างกายเหมือนกัน เพราะมันย่อมประกอบด้วยดินและน้ำเหมือนกัน มันมีน้ำมันและน้ำตาลเหมือนกัน แม้เลือดที่ออกจากร่างกายสัตว์ก็เหมือนกัน แต่เราไม่พอใจที่จะดื่มเลือดสดๆ จากร่างกายของสัตว์ เพราะปากเราไม่มีเหล็กแหลมแทงเนื้อสัตว์ เราชอบดื่มจากแผลที่เจ้าของเปิดไว้ไม่หวงแหน"
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า แม้แมลงวันหัวเขียวที่คนเราว่าเป็นสัตว์สกปรก แต่แท้ที่จริงมันเป็นสัตว์สะอาดและฉลาด มีเหตุผลของมันเองเหมือนกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น