วันเสาร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2558

นิทานธรรมดาโลก (๑๘)



๕๓. แมงดานา
     
     แมงดาผัวเมียคู่หนึ่ง มันอาศัยอยู่บนต้นไม้ในป่าดงดิบแห่งหนึ่ง   เมื่อถึงฤดูฝนแมงดาตัวเมียก็มีไข่เต็มท้อง   ถึงเวลาต้องออกไข่  เมื่อฝนตกลงมาห่าใหญ่น้ำเจิ่งนองในท้องธาร  แมงดาตัวผู้จึงบินพาแมงดาตัวเมียไปออกไข่  มันบินกันไปด้วยหนทางหลายโยชน์   จนถึงทุ่งนาแห่งหนึ่งมีต้นข้าวในนาเขียวชอุ่ม  มีน้ำขังอยู่ในท้องนา มันเห็นว่าเหมาะที่จะออกไข่ได้ มันจึงพากันบินลงไปยังท้องนา    แมงดาตัวเมียก็จับกอต้นข้าวแล้วเริ่มคายน้ำเมือกติดกับกอต้นข้าว  แล้วออกไข่ติดอยู่ในก้อนเมือก    เมื่อมันวางไข่หมดท้องแล้ว มันก็รู้สึกอ่อนเพลียและหิวอาหาร มันจึงลงจากกอข้าวไปเที่ยวหากินอาหาร  แมงดาตัวผู้ก็มากกไข่แทนเมียของมันอยู่โคนกอข้าว
      ขณะนั้นเห็นหญิงชาวนาเดินลงมาในท้องนา  เที่ยวมองหาไข่แมงดาอยู่  เพื่อจะเก็บเอาไปกินเป็นอาหาร มันรู้ได้ด้วยสัญชาติญาณจึงรีบลงจากกอข้าว  ไต่ลงไปแอบเกาะอยู่โคนกอข้าวในน้ำใส  มองเห็นหญิงชาวนาเดินมาใกล้แล้วเอามือตะปปตัวมันไว้ด้วยความว่องไว  แมงดาตัวผู้พยายามดิ้นรนให้หลุดเป็นอิสระภาพแต่มันดิ้นไม่หลุด   ชาวนาคนน้ันยังเอาเล็บหักจะงอยปากของมันเสียอีกเล่า  แล้วจับเอาตัวมันใส่ในตะข้อง  มันจึงเรียกบอกแมงดาตัวเมียคู่ของมันว่า 
     "พี่ลาก่อน ระวังตัวรักษาไข่ลูกของเราไว้ให้ดีด้วย"
     ขณะน้ันมันเห็นหญิงชาวนาเด็ดยอดกอข้าวเอาไข่ของแมงดาใส่ลงในตะข้องอีกด้วย  รวมกับแมงดาตัวอื่นๆ และไข่แมงดาอื่นอีกจำนวนหนึ่ง
     เมื่อถึงบ้านชาวนาก็เอาทั้งแมงดาและไข่แมงดาทั้งหมดเทลงในหม้อน้ำร้อนที่ต้ังอยู่บนเตา  เพื่อต้มกินเป็นอาหาร   ก่อนที่แมงดาตัวนั้นจะสิ้นใจตายไปในน้ำร้อน มันก็ได้แต่ร้องว่า 
     "สัตว์ตัวน้อยๆ อย่างเรานี้หนอ  ก็ล้วนแต่ต้องตายเพราะลูกเมียทุกตัวไป"
     นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า  สัตว์เกิดมาแล้วก็ต้องตายไป  เพราะสัตว์ใหญ่กินสัตว์น้อยอยู่ตลอดกาลนิรันดร 

๕๔. ปลาหมอตายเพราะปาก
     
     ปลาหมอตัวหนึ่ง  เมื่อถึงฤดูฝนน้ำไหลหลากมันก็กระโดดขึ้นจากลำธารแถกขึ้นฝั่งตามทางที่น้ำไหลมา  เพื่อจะหาที่อยู่ใหม่และหาอาหารที่อุดมสมบูรณ์กว่า  ตลอดจนอยู่ในน้ำท่าที่ใสสะอาดสดชื่นกว่าแหล่งเดิมของมัน แต่เมื่อมันแถกตัวไปบนน้ำตื้นๆ ที่ไหลรินมาน้ันน้ำก็หยุดไหล  มันจึงแถกตัวไถลต่อไปก็หามีน้ำไม่  แต่มันมีความทรหดอดทนจึงแถกตัวต่อไปเพื่อหาแหล่งน้ำใหม่ให้จงได้  แต่ไม่มีน้ำไหลมาเลย  มันหมดแรงจึงนอนเกล็ดแห้งตากแดดอยู่เป็นเวลานาน  นอนหายใจแผ่วๆ อยู่  แต่มันมีความอดทนมากมันจึงยังไม่ตาย   พอถึงตอนเย็นมีฝนตกลงมาอีกห่าใหญ่  พอมีน้ำชุ่่มขึ้น เกล็ดมันลื่นมันจึงตะเกียกตะกายต่อไปจนพบบึงใหญ่ขวางหน้าอยู่ มันจึงตะกายลงไปในบึงแห่งน้้นอย่างมีความสุข 
     วันหนึ่งมีชายตกเบ็ดมาตกเบ็ดที่บริเวณบึงแห่งน้ัน  เขาเอาเหยื่อล่อปลาหมอเมื่อเห็นเหยื่อเคลื่อนไหวไปมา  มันจึงฮุบเหยื่อนั้นทันที  ปากมันจึงติดเบ็ดถูกตวัดลอยขึ้นไปในอากาศแล้วชายนักตกเบ็ดก็จับตัวมันใส่ตะข้อง 
     เมื่อปลาหมอนอนอยู่ในตะข้องนั้น อยู่กับปลาอื่นๆ  มันจึงได้คิดว่าตัวเรานี้เมื่อนอนเกล็ดแห้งอยู่บนบกทั้งวันก็หาตายไม่  คร้ันลงสู่สาครเป็นสุข ก็มาเห็นแก่ปากแก่กินจึงต้องติดเบ็ดมานอนรอความตายอยู่  สมกับคำที่คนเขาว่าปลาหมอตายเพราะปากจริงๆ หนอ
     นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า  ความลำบากไม่เคยทำให้เราตาย แต่ความสุขสบายและเห็นแก่กินทำให้คนและสัตว์ต้องตายมากต่อมากนักแล้ว

๕๕. ตุ๊กแกกับงูเขียว

     ตุ๊กแกกับงูเขียวเป็นพี่น้องท้องเดียวกัน  ตุ๊กแกเป็นพี่งูเขียวเป็นน้อง  ตุ๊กแกนั้นรักใคร่ห่วงใยงูเขียวน้องของมันมาก  เมื่อเติบโตขึ้นต่างตัวก็ต่างแยกย้ายกันออกไปหากินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตามประสาสัตว์ที่ต้องหาอาหารกินเลี้ยงตัวเอง   แต่เจ้าตุ๊กแกน้ันมันคิดถึงงูเขียวน้องของมันอยู่เสมอ  เพราะมันเห็นว่ามีแต่ปาก แต่ไม่มีตีนเดิน และไม่มีมือช่วยตัวเองได้  เมื่อตุ๊กแกมันหากินไปจนอิ่มท้อง ต้องนอนนิ่งอยู่ตอนกลางคืนหรือตอนกลางวัน  มันจะร้องเรียกหางูเขียวน้องของมัน   แต่งูเขียวไม่ค่อยคิดถึงตุ๊กแกพี่ของมันเท่าไรนัก   นอกจากเวลาหาอะไรกินไม่ได้ ก็คิดถึงตุ๊กแกบ้าง คร้ันมันหากินไปไกล ได้ยินเสียงพี่ตุ๊กแกร้องเรียกหามัน มันก็รีบเลี้อยมาตามเสียงตุ๊กแกร้องเรียก   ครั้นเห็นหน้าพี่มันก็เข้ามาร้องทักว่า  ข้าหิวนักพี่มีอะไรกินบ้าง  ตุ๊กแกน้ันมีนิสัยรักน้องก็อ้าปากออกบอกว่า อยู่ในท้องพี่นี่แหละ เข้าไปดูในท้องของพี่ดูเถิดพบอะไรก็กินให้อิ่มเถิด  งูเชียวก็เลี้อยล้วงคอเข้าไปในปากตุ๊กแก  มันหาอาหารในท้องของตุ๊กแก พบอะไรอยู่ในท้องก็กินจนหมด พอกินอาหารในท้องตุ๊กแกหมดแล้วก็เลี้อยไปหากินต่อไป  ไม่ได้ห่วงใยว่าตุ๊กแกจะเหลืออาหารอยู่ในท้องของพี่มันหรือไม่  ถ้ามันกินอาหารอิ่มท้องมันก็เกาะกิ่งไม้หลับตานิ่งอยู่ ไม่ได้คิดถึงพี่ตุ๊กแกเลย
     นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า  เป็นพี่ต้องเสียสละเสมอเพื่อน้องตลอดมา  ต้องให้ความรักใคร่เมตตาต่อน้องด้วยความบริสุทธิ์ใจโดยมิต้องหวังอะไรตอบแทนเลย 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น