๘๐ ลิงหางขาด
จระเข้ตัวหนึ่ง มันว่ายน้ำหากินอยู่ในลำน้ำแห่งหนึ่ง เมื่อมันเหนื่อยแล้วมันจึงแวะไปที่คุ้งน้ำแห่งหนึ่ง มีต้นไทรอยู่ที่ริมตลิ่ง มันจึงค่อยคลานขึ้นบนตลิ่ง นอนพักอยู่ใต้ต้นไทรนั้น
แต่ธรรมชาติของจระเข้ มันเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่กลัวสัตว์บก เช่น เสือ หรือสิงโตจะมาตะครุบหัวมันลากขึ้นบกเข้าป่าไปกิน มันจึงมีวิธีป้องกันตัวของมันเวลานอนหลับด้วยวิธีอ้าปากให้กว้าง ถ่างขากรรไกรไว้ เพื่อมิให้เสือหรือสิงโตคาบหัวมันได้ อีกอย่างหนึ่งถ้าสัตว์ตัวใดเผลอมาเข้าปากมัน มันก็จะได้งับกินเป็นอาหารเสียด้วย จระเข้ตัวนี้จึงนอนอ้าปากหลับตาอยู่ตามปกตินิสัยของจระเข้ทั้งหลาย
ขณะน้ันมีลิงฝูงหนึ่งอาศัยอยู่ในป่าริมลำน้ำนั้น มีลิงสองแม่ลูกกำลังไต่กิ่งไทร เก็บกินลูกไทรอยู่บนต้น เมื่อลูกลิงไต่ลงมาจากต้นไทรมาเดินเล่นอยู่ที่พื้นดินใต้โคนต้นไทร มันก็แลเห็นสิ่งประหลาดคือจระเข้นอนอ้าปากหลับตาอยู่ มันเข้าใจว่าก้อนหินธรรมดา แต่ทำไมหนอในโพรงหินก้อนนั้นจึงมีเพดานสีแดง และมีก้อนหินสีขาว ๆ เรียงอยู่ด้วย มันไม่รู้ว่าเป็นปากและเป็นฟันของจระเช้ มันจึงเข้าไปนั่งเล่นอยู่ในถ้ำน้อยๆนั้น
จระเข้รู้สึกตัวว่ามีสัตว์อะไรอยู่ในปาก จึงร้อง "ฮูม" ลิงน้อยตกใจกระโดนหนี แต่จระเข้งับปากโดยเร็ว จึงงับเอาหางลิงขาดติดอยู่ในปากจระเข้ ส่วนตัวหนีจากปากจระเข้ไปได้ กลายเป็นลิงหางด้วน
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความเยาว์วัยอ่อนต่อโลกน้ัน ย่อมไม่รู้ว่าภัยอันตรายมีอยู่ที่ใด ไม่รู้วา่สิ่งที่แปลกตาน้ันก็เป็นอันตรายต่อชีวิตด้วย